วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไข่ม้วนเมนูอาหารง่ายๆกำไรดี


       ไข่ม้วน เมนูอาหารสำหรับของคนในยุคปัจุบัน ที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลา ลูกต้องรีบไปโรงเรียนต้องตื่นนอนแต่เช้าเสียเวลาอยู่กับรถติดในท้องถนน อาหารเมนูไข่จึงอาหารยอดฮิต สำหรับหลายๆคน ไข่ม้วนเป็นอาหารที่ทำง่าย ไม่ต้องเสียเวลาหากระทะ หรือหาอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก อาหารที่ง่ายในชั่วโมงรีบเร่งของใครหลายๆคน วันนี้จะมานำเสนอ อาหารว่างง่ายๆที่หลายคนยังไม่รู้ และสำหรับคนที่ว่างงานยังหาอาชีพอยู่ อาชีพขายไข่ม้วนก็เป็นอาชีพที่กำไรดีไม่น้อยเลยทีเดียว
                                                                                               

        เครื่องทำไข่ม้วนเป็น อุปกรณ์ประกอบอาหารชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าโดยความร้อนจากภายในตัวเครื่องทำให้อาหารสุก เมื่ออาหารสุกจะเด้งออกมาเอง ลักษณะการทำงานคล้ายเครื่องปิ้งขนมปัง และรูปทรงที่สวยงามของอาหารที่ออกมาจึงดูน่ารับประทาน การใช้งานง่ายๆเพียงแค่ตอกไขหรือเทเมนูอาหารใส่ลงไปในตัวเครื่อง หลังจากนั้นก็จะได้อาหารที่น่ารับประทานในเวลาไม่ก็นาที
เครื่องทำไข่ม้วน
                                                                                       ไข่ม้วนสูตรดั้งเดิม
               1.ใส่น้ำมันหรือทาเนยที่กระบอกเครื่องทำไข่ม้วนเล็กน้อย 2.ตอกไข่ใส่ลงไป จำนวน 1-2 ฟอง 3.เสียบไฟเปิดเครื่อง รอสักครู่ไข่สุกจะเด้งออกมา 4.รับประทานกับซอสต่างๆ เช่น ซอสภูเขาทอง หรืออื่นๆตามใจชอบ
                                                                       ไข่ม้วน สูตรไส้กรอก
               1.ใส่น้ำมันหรือทาเนยที่กระบอกเครื่องทำไข่ม้วนเล็กน้อยเสียบไฟฟ้าเปิดเครื่องทำไข่ม้วน 2.ตีไข่ ละเอียด 1 ฟอง เทลงในเครื่องทำไข่ม้วน 3.นำไส้กรอกหรือฮอสดอกเสียบไม่ใส่ลงไป เมื่อสุกแล้วจะเด้งออกมา 4.รับประทานกับซอส เช่นซอสพริก ซอสมะเขือเทศและผักตามใจชอบ
       ไข่ม้วนสามารถประกอบอาหารอื่นได้อีกหลายเมนู ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานเช่น ไข่ม้วนหมูสับ ไข่ม้วนทรงเครื่อง เป็นต้น สามารถนำมาประกอบอาชีพได้โดยหาทำเลที่เป็นชุมชนสักหน่อย เมนูไข่ม้วนเสียบไม่แท่งละ 25 – 30 บาทสามารถทำเงินได้อย่างดีเลยทีเดียว

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สูตรเด็ดเคล็ดลับ ! สูตรหมูปิ้ง การหมักหมูปิ้ง

clip_image002
clip_image003
clip_image004
ในช่วงประเทศชาติกำลังมองหาทางออกไม่เจอ อย่างนี้ หลายคนรับแต่เรื่องหนัก ๆ กันเต็มที่ แล้ว วันนี้ ก็เลยเอาเรื่องเบามาฝาก เพื่อน SME /ASTV MANAGER อาจจะกำลังมองหาอะไรทำ หรือ น้องที่ตกงาน อาชีพนี้ไม่เลวเลยที่เดียว เพราะเป็นเมนูยอดฮิต หลายคนชื่นชอบ เชื่อว่า ทำขายรับลองว่าขายได้อย่างแน่นอน กำไรก็ไม่เลวเลยที่เดียว
ส่วนผสมของสูตรหมูปิ้ง
       1.เนื้อหมูสันนอก: ครึ่งกิโลกรัม (5 ขีด)
       2.กระเทียม: 10 กลีบ
       3.เกลือป่น: 1 ช้อนแกง
       4.ซีอิ๊วขาวสูตร1: 1 ช้อนแกง
       5.ซีอิ๊วหวานสูตร1: 1 ช้อนแกง
       6.น้ำตาลทราย : 1 ช้อนแกง
       7.พริกไทยเม็ด : 10 เม็ด
clip_image005
clip_image004[1]
วิธีหมักหมูปิ้ง
       1.ล้างเนื้อหมูให้สะอาด จะได้ไม่มีกลิ่นเวลาหมัก
       2.หั่นหมูเป็นชิ้นบางๆเล็กๆ ขนาดพอดีคำ เหมือนที่เราเห็นตามเขาขายนะคะ
       3.นำหมูที่หั่นเสร็จใส่ในภาชนะสำหรับหมักที่ล้างสะอาด (ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นโลหะ)
       4.ตำกระเทียมกับพริกไทยเม็ดให้พอละเอียด คลุกลงในเนื้อหมู
       5.เติมเครื่องปรุงที่เหลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
       6.ปิดฝาภาชนะวางในตู้เย็นหรือตู้แช่ ทิ้งไว้ 3-5 ชั่วโมง
       7.แค่นี้เราก็จะได้เนื้อหมูปิ้งหมักสูตรเด็ดพร้อมนำไปเสียบไม้ปิ้งได้แล้ว
       8.เพื่อนๆลองเอาสูตรและส่วนผสมหมูปิ้งนี้ไปปรับดูก่อน เพื่อให้ได้รสชาติที่ตัวเองชอบอีกที่หนึ่งก่อน หรือ ทดลองทำให้คนรอบข้างชิมก่อนก็ได้ เพื่อกันพลาด
clip_image006
clip_image004[2]
ส่วน รายได้ ที่หลายคนอยากรู้ จากการสำรวจพบว่า รายได้ขึ้นอยู่กับยอดขาย ปัจจุบันหมูแพง ราคาหมูปิ้งอยู่ที่ 5-10 บาท ส่วนกำไรต่อไม้ อยู่ที่ ไม้ละ 1-2 บาท ดังนั้น ควรจะขายได้มากกว่า 500 ไม้ขึ้นไปน่าจะพออยู่ได้ แต่กำไรจริงเขาบอกว่าอยู่ที่ ข้าวเหนียว ซึ่งมีรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ไม่รู้ว่าเขาขายกี่ไม้ แต่เขารู้ว่า วันนี้ซื้อของมาเท่าไหร่ โดยซื้อหมูมาวันละ 20 กิโลกรัม ตับไก่ 10 กิโลกรัม และกึ๋น 5 กิโลกรัม และข้าวเหนียว ถ้าขายหมด จะได้ประมาณ 4,000 บาท ขั้นต่ำ แต่จริงแล้วได้มากกว่านั้น ถ้าขายได้ 4,000 บาท จะได้กำไรประมาณ 1,500 บาท
ที่มา:ผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

'ขนมครกญี่ปุ่น’ ทำไม่ยาก ขายง่าย กำไรดี


อาชีพค้าขายของกิน-ขนมตามข้างทาง ริมถนน อาจจะดูเหมือนเป็นอาชีพธรรมดาๆ
แต่จริง ๆ แล้ว อาชีพธรรมดาแบบนี้ ก็สร้างรายได้ให้กับผู้ที่ทำได้ เป็นกอบเป็นกำ
อย่างการขาย "ขนมครกญี่ปุ่น"ย่านกลางเมืองที่มีอาคารสำนักงานมากก็น่าสนใจ
ซึ่งวันนี้ทีมงาน "ช่องทางทำกิน""จะนำเสนอเรื่องนี้......
เชิด แพงเนตร พ่อค้า "ขนมครกญี่ปุ่น""ย่านริมถนนอโศกมนตรี ขายขนมที่ว่านี้มากว่าปีแล้ว
ซึ่งก่อนที่จะมาประกอบอาชีพค้าขาย ก็ทำงานโรงงานมาก่อน แต่ตอนหลังโรงงานย้ายไปต่างจังหวัด
ซึ่งเขาไม่อยากจะย้ายตาม จึงออกมาค้าขาย
"ได้ไปเห็นคนขายขนมครกญี่ปุ่นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็สนใจ และอยากจะลองขายบ้าง
จึงไปขอเรียนวิชากับเขา และเริ่มขายครั้งแรกที่จุฬาฯ เลย ต่อมาได้ย้ายทำเลขายไปเรื่อย ๆ
ตามแหล่งที่มีอาคารสำนักงาน อย่างอาคารวานิช และเพิ่งมาลงที่ย่านอโศกได้ปีกว่า ๆ"
clip_image001
อุปกรณ์สำคัญในการขาย "ขนมครกญี่ปุ่น"นั้น เชิดบอกว่า ต้องมีเตาขนมครกที่เป็นเหล็ก
ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีหลุมขนมครกทั้งหมด 20 หลุม ทำขนมครกได้ 10 คู่
เตานี้ใช้ความร้อน โดยใช้ไฟจากเตาแก๊ส ราคาประมาณ 13,000 บาท หาซื้อได้จากเวิ้งนาครเกษม
สำหรับการทำ ก็เริ่มจาก การเตรียมแป้งขนมครก ตามสัดส่วนวัตถุดิบที่ทำอยู่ก็ใช้
แป้งสาลี 6 กก
ไข่ไก่ 60 ฟอง
น้ำตาลทราย 4 กก
ผงฟูห่อเล็ก 12 ห่อ และเนยสดแบบธรรมดาอีก 1.5กก.
ขั้นตอนการทำ
เริ่มต้นด้วยร่อนแป้งสาลีผสมกับผงฟู พักไว้ จากนั้นตอกไข่ไก่ผสมลงกับน้ำตาลทราย และน้ำเปล่าพอประมาณ
ตีเข้าด้วยกัน อาจจะใช้มือหรือเครื่องตีก็ได้ แต่จะต้องตีให้ไข่ไก่ขึ้นฟองฟูสีขาว
จากนั้นค่อย ๆ เทแป้งที่ร่อนไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน
นำเนยสดไปตั้งไฟ เพื่อให้ละลายกลายเป็นน้ำ และทิ้งไว้ให้เย็น
จากนั้นเทเนยสดลงไปในแป้งที่ผสมแล้วคนให้เข้ากัน เท่านี้ก็เรียบร้อยไปส่วนหนึ่ง
clip_image002
ต่อไปมาดูไส้ขนมครกญี่ปุ่น ซึ่ง มี 3 ไส้คือ ไส้ครีม ไส้เผือกกวน ไส้ถั่วแดงกวน
ไส้ขนมนี้ จะต้องทำเพื่อใช้วันต่อวัน เพื่อความสดใหม่น่ารับประทาน
ไส้ครีม
ส่วนแรกใช้แป้งสาลี 500 กรัม บวกกับน้ำประมาณ 1 ขัน นำมาละลายให้เข้ากัน
จากนั้น นำขึ้นตั้งไฟกวนให้เหนียวข้นเหมือนกับแป้งเปียก แล้วพักเอาไว้
อีกส่วนหนึ่งก็เตรียม
น้ำตาลทราย 500 กรัม
นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
ไข่แดง 1 ฟอง
เนยสด 2.5 กก.
เกลืออีกนิดหน่อย
นำส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นเนยสด ตั้งไฟกวนให้เข้ากัน จนกระทั่งส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
ตรงนี้เชิดบอกว่า ในส่วนของไข่แดงนั้นจะใส่ก็ได้หรือไม่ใส่ก็ได้ เพราะมีค่าเท่ากัน
แต่เพื่อความสวยงาม ให้ครีมออกสีแดง ๆ ก็ควรใส่ลงไป
เทส่วนผสมส่วนที่สองลงไปในส่วนผสมส่วนแรก ซึ่งตั้งไฟไว้ตลอดเวลา กวนไปเรื่อย ๆ
จนกว่าส่วนผสมจะเข้ากันพอดี ค่อย ๆ เทเนยสดลงไปกวนเรื่อย ๆ จนหมด
แต่ในระหว่างเดียวกัน ก็ต้องเทน้ำพอประมาณลงไปกวนผสมด้วย เพื่อไม่ให้เนื้อครีมติดกันเป็นก้อน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณเนยสด 2.5 กก. นั้น สามารถเพิ่มเติมได้ ขึ้นอยู่กับว่าสีของไส้ครีมจะเหลืองถูกใจ
และดูน่าทานแล้วหรือยัง
เชิดบอกว่า ระหว่างที่ตั้งไฟกวนไส้ครีมนั้น ต้องกวนตลอดเวลา อย่าหยุดมือ มิฉะนั้นไส้จะไหม้
ไส้เผือกกวน
การทำก็นำหัวเผือกสด 3 กก. มาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด
แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดใหญ่พอประมาณ นำไปต้มในน้ำให้สุก
จากนั้น นำเผือกใส่กระทะตั้งไฟ ใส่กะทิสด 1 กก. กวนให้เข้ากัน
แล้วใส่น้ำตาลทราย 750 กรัม และเกลือ ลงไปกวนให้เข้ากัน ชิมรสชาติให้หวานพอดี ๆ ก็เป็นอันเสร็จ
ไส้ถั่วแดงกวน
ก็นำเมล็ดถั่วแดงเมล็ดใหญ่ 1กก. แช่ค้างคืนเอาไว้ให้นิ่ม แล้วนำไปต้มให้สุก จากนั้น เข้าเครื่องปั่นให้ละเอียด
และนำไปกวนเหมือนเผือกกวน คือใส่กะทิสด 1กก. น้ำตาลทราย 750 กรัม และเกลืออีกนิดหน่อย
วิธีการทำ-การขาย "ขนมครกญี่ปุ่น"
ให้เทแป้งลงไปในหลุมของเตาพอประมาณ ทิ้งไว้สักพัก เมื่อแป้งเริ่มสุกก็ใส่ไส้ลงไปบนแป้ง
จากนั้นแคะแป้งอีกด้านที่ไม่ได้ใส่ไส้ มาวางคว่ำลงบนแป้งที่ใส่ไส้เอาไว้
"ขนมครกญี่ปุ่น""เป็นขนมที่ทำไม่ยากมาก ขายง่าย และมีกำไรน่าสนใจทีเดียว
ซึ่งใครที่ยังไม่รู้จัก อยากจะเห็นหน้าตา อยากชิมรสชาติ หรือสอบถามอะไรเพิ่มเติมจาก เชิด แพงเนตร
ร้านของเขาที่ริมถนนอโศกมนตรี ตรงบริเวณถนนอโศก ซอย " ขายทุกวันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-14.00น.
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน
clip_image003
TAKOYAKI ทาโกยากิ (ขนมครกญี่ปุ่น)
ส่วนผสม
1. แป้งทาโกะ 1 ถุง
2.ไข่ไก่ 2 ฟอง
3.น้ำเปล่า 7 ถ้วยตวง
4.ทาโกะ (ปลาหมึกยักษ์ญี่ปุ่น) หั่นสี่เหลี่ยมเต๋า 1พอประมาณ
5.ขิงดองญี่ปุ่นหั่นฝอยเล็กๆ 1พอประมาณ
6.ต้นหอมซอย 1พอประมาณ
7.ปลาแห้งญี่ปุ่น (สำหรับโรยหน้า) 1/2ถ้วยตวง
8.ซอสหวาน สำหรับทาโกะยากิ 1พอประมาณ
9.สาหร่ายผง 1/2ถ้วยตวง
10.มายองเนส 1/2 ถ้วยตวง
11.น้ำมันพืชสำหรับเช็ดเตา 1/2ถ้วยตวง
วิธีทำ
1.ค่อยๆผสมแป้ง 1 ถุงกับน้ำและไข่ไก่ จนเนื้อแป้งเนียนละเอียด
2.ตั้งเตาขนมครกจนเริ่มร้อน เช็ดเตาด้วยน้ำมันพืช (เพื่อไม่ให้ขนมครกติดเตา)
3.หยอดแป้งลงไปจนเต็ม ใส่ส่วนผสมของปลาหมึก ต้นหอมซอย ขิงดอง ลงไป
4.รอจนด้านล่างสุก ใช้ไม้จิ้มพลิกกลับด้านรอจนสุกอีกแล้วกลับด้าน ได้ขนมครกลูกกลมๆกลิ้งไปมาจนสุกทั่ว
5.ตักใส่จานราดด้วยมายองเนส และซอสทาโกะยากิ โรยหน้าด้วยปลาแห้งและสาหร่ายผง
ที่มา เดลินิวส์,เว็บโหระพา